อาหารคาวจากผลไม้ ผลไม้เป็นสิ่งที่เรานำมาทานหลังจากทานอาหารคาวเสร็จถือว่าเป็นของล้างปาก เพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาวติดปาก และเมืองไทยเป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีผลไม้มากมายที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง เพราะไม่ว่าจะปลูกอะไรก็ดก ผลไม้เมืองหนาวอย่างเชอร์รี่ แอปเปิ้ล
ประเทศไทยก็สามารถปลูกได้ ผลไม้มีให้ทานตลอดทั้งปี มีราชาผลไม้อย่างทุเรียน และราชินีผลไม้อย่างมังคุด และยังมีผลไม้ประจำภาคต่าง ๆ ให้ได้ลองลิ้มชิมรสอย่าง ลองกอง มะไฟ มะเฟือง ลางสาด มะปราง มะยงชิด เป็นต้น เรียกได้ว่าอยากทานผลไม้อะไรก็ได้ทาน แล้วจะแปลกไหมถ้าผลไม้กลายมาเป็นอาหารคาว

เมนูง่าย ๆ อาหารคาวจากผลไม้ ที่มีรสชาติอร่อยต้องลองทานสักครั้ง
เมนูแรกที่จะแนะนำ หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ทานมาแล้ว แต่ผู้เขียนออกตัวก่อนเลยว่าไม่ทานเพราะเป็นคนแพ้ผลใม้ชนิดนี้ เมนูนี้คือ “แกงสับปะรดหอยแมลงภู่” ก็ไม่ต้องเอ่ยอะไรอีกแล้วว่าอาหารคาวจานนี้พระเอกก็คือ “สับปะรด” ซึ่งก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องแกงก่อน โขลกพริกแห้ง หอมหัวแดง กระเทียม กะปิ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี พริกไทยเม็ด และเกลือเล็กน้อย เมื่อโขลกจนละเอียดได้ที่แล้วใส่กุ้งแห้งป่นลงไปด้วย
จากนั้นตั่งหม้อใส่หัวกะทิ เคี่ยวจนหัวกะทิแตกมันแล้วนำพริกแกงที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้หอม ใส่สับปะรดหั่นซีกลงไปและตามด้วยหางกะทิ เมื่อเดือดแล้วใส่ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาให้ได้รสที่ชอบ สุดท้ายใส่เนื้อหอยแมลงภู่ที่แกะออกจากเปลือก พอใส่แล้วปิดไฟยกหม้อลง เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อย ๆ ได้อาหารคาว “แกงสับปะรดหอยแมลงภู่”

อาหารคาวจากผลไม้เมนูที่ 2 คือ “แกงคั่วหมูระกำ” เตรียมระกำ (อาจจะต้องสังเกตระหว่างระกำ และสละ เพราะทั้ง 2 ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกัน แต่ระกำจะมีความเปรี้ยวกว่า) คว้านเอาเมล็ดออกเหลือแต่เนื้อ จากนั้นตำพริกแกง โดยโขลก พริกแห้ง หอมหัวแดง กระเทียม พริกไทยเม็ด กะปิ ตามด้วยข่า รากผักชี ตะไคร้ ผิวมะกรูด และเกลือเล็กน้อย โขลกจนเครื่องแกงละเอียด แล้วใส่ปลากรอบป่นตำเข้าไปผสม
จากนั้นตั้งหม้อโดยใส่หัวกะทิเคี่ยวให้แตกมันแล้วใส่พริกแกงที่โขลกเตรียมไว้ผัดให้หอม สีสวยแตกมัน ใส่เนื้อหมูที่หั่นเตรียมไว้ชิ้นพอดีคำ นำลงไปผัดกับเครื่องแกง พอหมูเริ่มเปื่อยนำระกำที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เคี่ยวจนน้ำขลุกขลิกแล้วปรุงด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาให้รสเปรี้ยวนำ และจัดจ้าน จัดเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ เป็นอันเสร็จสรรพอาหารคาวจากผลไม้

แกงนี้เป็นอาหารคาวที่เป็นอาหารถิ่นทางภาคเหนือ เริ่มจากการต้มขนุนอ่อนทั้งเปลือก เมื่อสุกดีแล้วปอกเปลือกแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ จากนั้นโขลกเครื่องแกง
โดยใช้ พริกแห้ง หอมหัวแดง ตะไคร้ ตามด้วยกระเทียม พริกไทยป่น กะปิ และถั่วเน่าที่ย่าง/ปิ้งแล้ว (ถั่วเน่าคือ ถั่วเหลืองหมักแล้วตากแห้งเมื่อนำไปใช้เป็นเครื่องปรุงจะต้องปิ้งหรือย่างก่อนเสมอ) และเกลือป่นเล็กน้อย ตั้งหม้อใส่น้ำมัน ผัดเครื่องแกงที่เตรียมไว้ ผัดให้หอมแล้วใส่หมูสามชั้น หรือกระดูกหมูอ่อน หรือซี่โครงหมู พอหมูสุกระดับหนึ่งเติมน้ำซุป ตั้งให้เดือด ใส่ขนุนอ่อนที่เตรียมไว้
จากนั้นก็ใส่มะเขือเทศสีดา และชะอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ อาจจะใส่น้ำปลาร้าต้มสุกลงไปก็จะได้รสชาติที่ดีเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อเดือดแล้วจัดเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว หรือจะทานกับแคบหมู หรือทานเปล่า ๆ ก็ตามแต่อัธยาศัย เสร็จไปอีกหนึ่งกับอาหารคาวจากผลไม้
ฝากกดติดตามเมนูหารเช้า
เมนูแนะนำฟักทองผัดไข่ใส่หมู เมนูที่อุดมสารอาหารอันทรงคุณค่าจากฟักทอง